ยุทธวิธีและวิธีการ ของ การประท้วงในฮ่องกง พ.ศ. 2562–2563

สถานีรถไฟใต้ดินใกล้กับสถานีตลาดไทโป หรือ "อุโมงค์เลนนอน"

การประท้วงในฮ่องกง พ.ศ. 2562 ส่วนใหญ่ได้รับอธิบายว่า "ไร้ผู้นำ"[41] ไม่มีกลุ่มหรือพรรคการเมืองใดอ้างว่าเป็นผู้นำขบวนการ ส่วนใหญ่รับบทบาทสนับสนุนมากกว่า เช่น ยื่นขอใช้สถานที่ (Letters of No Objection) จากตำรวจหรือไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าพนักงานตำรวจ[42] ผู้ประท้วงโดยทั่วไปใช้ LIHKG ฟอรัมออนไลน์คล้ายกับเรดดิต และเทเลแกรม ซึ่งเป็นบริการส่งสารเข้ารหัสต้นจนจบคล้ายกับวอตส์แอพ เพื่อสื่อสารและระดมสมองหาความคิดสำหรับการประท้วงและตัดสินใจร่วมกัน[43]

ผู้ประท้วงใช้การนำความคิดไปปฏิบัติ (praxis) หลายอย่าง อย่างแรกคือ "เป็นน้ำ" ซึ่งถือกำเนิดจากปรัชญาของบรูซ ลี ผู้ประท้วงมักเคลื่อนที่เข้ามาแบบคล่องแคล่วว่องไวเพื่อให้ตำรวจรับมือได้ยากขึ้น[44] ผู้ประท้วงมักถอยออกไปเมื่อตำรวจมาถึง และจะไปปรากฏที่อื่น[45] ต่างจากการประท้วงครั้งก่อน ๆ การประท้วงในปี 2562 กระจายไปทั่วเกาะฮ่องกง เกาลูนและนิวเทอร์รีทอรีส์ทั้ง 20 ย่าน[46] นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังใช้วิธีกลุ่มดำ (black bloc) ซึ่งส่วนใหญ่สวมหน้ากากดำเพื่อปกปิดรูปพรรณของพวกตน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประท้วงยังใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อตอบโต้ตำรวจ โดยใช้ตัวชี้เลเซอร์เพื่อทำให้ตำรวจไขว้เขว พ่นสีใส่กล้องสอดแนม และกางร่มเพื่อพิทักษ์และปกปิดรูปพรรณของกลุ่ม[47]

มีผู้ประท้วงสองกลุ่มหลัก กล่าวคือ กลุ่ม "สันติ มีเหตุผลและปลอดความรุนแรง" (อักษรจีน: 和理非) และกลุ่ม "นักสู้" (อักษรจีน: 勇武)[48] "กลุ่มสันติ" เข้าร่วมการประกาศคำขวัญ และร้องเพลงอย่าง "เกียรติศักดิ์สู่ฮ่องกง" (Glory to Hong Kong) เป็นเพลงปลุกใจ บางส่วนอาสาเป็นพยาบาลสนาม[49] เริ่มการอดอาหารประท้วง[50] ก่อโซ่มนุษย์[39] เริ่มการรณรงค์คำร้องทุกข์[51] จัดระเบียบการนัดหยุดงานประท้วง ขัดขวางบริการขนส่งสาธารณะ[52] คว่ำบาตรร้านค้าและองค์การที่นิยมรัฐบาลจีน[53] สร้าสงงานดัดแปลงล้อเลียนตำรวจและรัฐบาล[54] และตั้งกำแพงเลนนอนในหลายเขตและย่านของฮ่องกง[55] อีกด้านหนึ่ง ผู้ประท้วงหัวรุนแรงมากกว่าเผชิญหน้ากับตำรวจ ปิดล้อมสถานีตำรวจ[56] ตั้งสิ่งกีดขวางถนน[57] บ้างก่อกวนโดยทำลายสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและร้านค้าที่นิยมรัฐบาลจีน[58][59] ทำลายสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของประเทศจีน[60] และลอบวางเพลิงโดยขว้างปาระเบิดน้ำมัน[61][62] ผู้ประท้วงบางส่วนยังขุดคุ้ยและรังควานไซเบอร์ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจและครอบครัวและอัปโหลดสารสนเทศส่วนบุคคลออนไลน์[63] กระนั้น แม้มีวิธีการต่างกัน แต่ทั้งสองกลุ่มมิได้ประณามหรือวิจารณ์กันและกัน หลักการคือ "ไม่แบ่งแยก" ซึ่งมุ่งสนับสนุนความเคารพความเห็นต่างของกันและกันในขบวนการประท้วงเดียวกัน[64]

เพื่อเพิ่มความตระหนักถึงข้อเรียกร้อง ผู้ประท้วงบางส่วนยังระดมทุนเพื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ระหว่างประเทศรายใหญ่[65] และโบกธงชาติสหรัฐและยูเนียนแจ็กของบริเตนเป็นเครื่องหมายการสนับสนุนสหรัฐและสหราชอาณาจักรตามลำดับ ตลอดจนร้องเพลงชาติสหรัฐ[66] พวกเขายังจัดการแถลงข่าวเพื่อ "แพร่สัญญาณเสียงที่มีผู้แทนน้อย" และทัศนะของพวกตนต่อสาธารณะเพื่อตอบโต้การแถลงข่าวของตำรวจและรัฐบาล[67] ผู้ประท้วงยังพยายามแจ้งนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการประท้วงฮ่องกงโดยปักหลักชุมนุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง และใช้คุณลักษณะแอร์ดร็อปของเครื่องแอปเปิลเพื่อให้สารสนเทศต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อสาธารณะและนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่[68] มีการใช้กบเปเปอย่างกว้างขวางเป็นเครื่องหมายแห่งเสรีภาพและการขัดขืน[69] และการรณรงค์ #Eye4HK ซึ่งแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งซึ่งมีรายงานว่าตาแตกเนื่องจากถูกตำรวจยิงกระสุนถั่วใส่ ทำให้ได้โมเมนตัมทั่วโลก[70]

แหล่งที่มา

WikiPedia: การประท้วงในฮ่องกง พ.ศ. 2562–2563 http://www.ejinsight.com/20190726-police-defend-re... http://www.ejinsight.com/20190820-why-police-shoul... http://www.ejinsight.com/20190822-independent-inqu... http://www.ejinsight.com/20190829-detained-protest... http://www.thestandard.com.hk/breaking-news.php?id... http://www.thestandard.com.hk/section-news.php?id=... http://www.thestandard.com.hk/sections-news_print.... http://ebook.lib.hku.hk/bldho/articles/BL0474.pdf //www.worldcat.org/issn/0362-4331 //www.worldcat.org/issn/1021-6731